ห้ามคลุมดำ

pearleus

วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เจ้าสาวสิบเจ็ด ตอนที่ 1




          สิงหราช  สิงหคุณาวัฒน์เป็นคนดุ  ใครแรงมาเขาซัดแหลก  จะหาคนที่กล้าต่อกร หาได้ยากเต็มที  มีก็แต่คุณนายสร้อยระย้าแห่งไร่เรืองสิงห์ที่กล้าบ่นกระปอดกระแปด  แขวะเขาบ่อยๆ เรื่องไม่ยอมมีลูกมีเมีย  ปีนี้ชายหนุ่มอายุสามสิบหก  กำลังเท่  กำลังสมาร์ตในสายตาสาวๆ  แต่ในสายตาคนแก่  เขาควรจะมีครอบครัว  มีหลานย่าให้นางอุ้ม  

          “ชาวบ้านชาวช่องเขานินทากันให้แซด  ว่าพ่อสิงห์กับพ่อเสือกินกันเอง  ถึงไม่ยอมสนใจผู้หญิง”  กระแทกเสียงขุ่น หน้าหงิกเป็นจวัก  นั่นเพราะหลานชายรูปงามเพิ่งปฏิเสธลูกสาวนายอำเภอ  ไม่ยอมเออออห่อหมกเมื่อนางนำเสนอ

        “ไอ้อีคนไหนมันปากบอน  ย่าออกชื่อมาเลยดีกว่า  ผมจะลากลิ้นมันออกมาสับ  จะได้เลิกเสือกเรื่องผมกับไอ้เสือซะที  วอนโดนตีนกันนัก”  ไอ้เสือคือเพื่อนซี้  อายุเท่ากัน  ทัศนคติคล้ายกัน  ไม่สนใจผู้หญิงยิงเรือ  สนใจแต่เรื่องพัฒนาไร่

          “อุ๊ย! นี่มันเรือนฉันนะยะ  อย่ามาวางมาดนักเลงขู่  จะข่มคนงานในไร่ก็ข่มไป  ข่มย่า  ย่าไม่กลัวพ่อสิงห์ดอก”

       “โธ่ย่า! ข่มเขิ่มอะไรกัน  ผมแค่รำคาญเต็มแก่  ย่าคุยแต่เรื่องเดิมๆ”

          “ก็ต้องคุยแต่เรื่องเดิมๆ สิ  ใครไปมาหาสู่เขาก็ถามไถ่  ว่าเมื่อไหร่พ่อสิงห์จะมีเมีย  ย่าไม่อยากคิดอกุศล  แต่บางทีก็อดคล้อยตามปากหอยปากปูไม่ได้  พ่อสิงห์กับพ่อเสือนิยมชนช้างกันกระมัง  ถึงไม่เคยเหลือบแลสาวงามบ้านไหน  ลูกผู้ว่าก็แล้ว  ลูกคุณหมอก็แล้ว  เล่นตัวยักท่าไม่มีใครเกิน  บอกไว้ก่อนเลยนะ  ถ้าจะเอาพ่อเสือทำเมีย  รอย่าตายก่อน”

          “เบื่อ!  ยกนิ้วนวดขมับ  ดีที่แยกไปปลูกบ้านใหม่ท้ายไร่  อยู่คนเดียวเป็นสัดเป็นส่วน  ขืนร่วมชายคามีหวังประสาทแดก

          “ย่าจะเอายังไงว่ามาเลย  ผมเบื่อผู้หญิง  เจ๊าะแจ๊ะน่ารำคาญ  สะดีดสะดิ้งกันทั้งนั้น  แต่เรื่องเป็นเกย์ผมไม่ได้เป็น  ไอ้เสือมันก็ผู้ชายทั้งแท่ง  แมนเต็มตัว  ไม่ใช่คู่ขากันแน่ๆ”

          “ย่าอยากอุ้มเหลน”

          “ถ้าอยากจริงๆ ผมจะรับบุตรบุญธรรม”

          “ไม่เอา! ต้องสายเลือดแท้ๆ จากแกเท่านั้น”

          “วะ!  หงุดหงิดขึ้นมาบ้าง  ผลคือโดนชี้หน้าด่า

          “อย่ามาขึ้นวะขึ้นโว้ยกับย่านะ  หน็อย! เลี้ยงมาแต่ตีนเท่าฝาหอย  อีกไม่กี่ปีก็สี่สิบ  จะหมดน้ำยาผลิตลูกอยู่รอมร่อ  จะหวงแหนความโสดทำไมนักหนา  ถ้าแกไม่อยากมีเมีย  ก็หาผู้หญิงใจง่ายเข้าสักคน  นอนกันหนสองหนพอให้ติดลูก  คลอดลูกแล้วจะเฉดหัวผู้หญิงทิ้งก็เรื่องของแก  ได้เหลนเมื่อไหร่  ย่าจะเลิกบ่น  เลิกยุ่ง  เลิกตอแย  อยากจะหัวหกก้นขวิด  อยากจะเป็นเก้งเป็นกวางก็ตามสบาย  คำน้อยจะไม่กระทบกระแทกแดกดัน”   

        “พูดเป็นลิเก  ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะยอม”

        “ถ้าไม่มีปัญญาหา  ย่าจะหาให้  หน้าหล่อๆ หุ่นแน่นๆ  เงินตุงกระเป๋าอย่างพ่อสิงห์  อย่าว่าแต่เป็นเมียระยะสั้น    ชั่วโมงสองชั่วโมงก็มีคนอยากถวายตัวให้กก”

          “ไม่ตกลงครับย่า  จะเอาผู้หญิงระริกระรี้มาอุ้มท้องลูกผม  ผมไม่เอาเด็ดขาด”

          “ก็แล้วถ้าอีแก่คนนี้  หาแม่พันธุ์เหมาะๆ ให้แกได้  แกจะว่ายังไง”  คุณนายสร้อยระย้าตาเป็นกายวิบวับ  ผิดกับหลานชาย  หน้าเขาเครียด   หัวคิ้วย่น  เส้นเลือดข้างขมับเต้นตุบๆ

          “ถ้าย่าอยากมีเหลนจนตัวสั่น  เอาก็เอา  แต่ผมมีข้อแม้นะ  ถ้าแม่พันธุ์ไม่ถูกใจผมมีสิทธิ์ปฏิเสธ  ที่สำคัญผมจะยุ่งด้วยแค่ท้อง  ท้องปุ๊บจบปั๊บ ทางใครทางมัน  ผู้หญิงคนนั้นจะมาขี้ตู่ว่าผมเป็นผัวไม่ได้”

          “ย่ะ!

          “ที่ผมยอม  ก็เพราะผมรำคาญ  ย่ากรอกหูทุกวัน  พูด  พูด  พูดจนสมองผมเบลอหมดแล้ว”

          “จะไปไหนก็ไปไป๊  ย่าจะนอนก่ายหน้าผากคิด  จะจับใครใส่พานให้พ่อสิงห์ดี  แหม! ตกปากรับคำมั่นเหมาะอย่างนี้ค่อยชื่นใจหน่อย”

          “ฮึ!” เจ้าของไร่ย่ำเท้าปึงปังออกห่าง  เจ้าของบ้านยิ้มกริ่มเต็มหน้า  ก่อนตายมีแววจะได้อุ้มเหลน

          “อ๋อ! นึกออกแล้ว”  ตบเข่าตัวเองดังฉาด  รีบต่อโทรศัพท์มือไม้สั่น

          “ว่าไง  ข้อเสนอของฉัน  จะรับหรือไม่รับ”  ถามเมื่อคุยกันได้สักพัก

          “แหม! คุณนายขา  ลูกสาวสามคนของดิฉัน  ทั้งสวย  ทั้งสาว  กิริยามารยาทก็ผู้ดี๊ผู้ดี  ริ้นไม่เคยไต่  ไร่ไม่เคยตอม  จะให้ไปเป็นเมียประเดี๋ยวประด๋าวของพ่อสิงห์  มิขาดทุนป่นปี้หรือคะ”  

          “จะขาดทุนได้อย่างไร  ตั้งท้องแล้ว  พ่อสิงห์ไม่รับเป็นเมียก็ไม่เดือดร้อนดอก ฉันยังอยู่ทั้งคน  แม่ของเหลน  ฉันไม่ปล่อยอดอยากแน่  สมบัติพัสถานฉันก็เยอะ  ฉันตายลง  จะเป็นของใคร่เล่า  แม่พริ้มเพราจงตรองดูเถิด”

          “ดิฉันขอเวลาคิดหน่อยนะคะ  จะให้ลูกออกเรือนทั้งที  ต้องตรึกตรองให้ละเอียดถี่ถ้วน”

          “ฉันใจร้อน  กลัวพ่อสิงห์จะเปลี่ยนใจ  ถ้าแม่พริ้มเพราจะต้องใช้เวลาตรึกตรอง  ฉันว่า  ฉันยกข้อเสนอนี้ให้ลูกสาวบ้านอื่นได้  เราเลิกคุยเรื่องเกี่ยวดองเถอะ  คุยเรื่องหนี้สินจะดีกว่า  เงินสองล้านที่กู้ไป  ว่าอย่างไรเล่า  ทั้งต้นทั้งดอกทำไมถึงเงียบกริบ”

          “เอ่อ...”

          “อย่ามาเอ้ออ้าอึกอัก  ฉันไม่ชอบ  แม่พริ้มเพราลืมแล้วหรือ  โฉนดบ้านของหล่อนอยู่ในมือฉัน”

          “แหม! แหม! แหม!  ใจเย็นๆ สิคะ  เอาเป็นว่า พรุ่งนี้ดิฉันกับลูกๆ ทั้งสามจะไปเป็นแขกของไร่เรืองสิงห์  พ่อสิงห์ถูกใจคนไหน  แม่เพ็ญ  แม่แพร  แม่พัชร  ก็เลือกรื้อซื้อหาเอาเถิดเจ้าค่ะ”

          “นี่  อย่ามาประชดฉันนะ  ฉันรู้ทัน  ลึกๆ หล่อนแอบดีใจจนเนื้อเต้น  ถ้าลูกสาวหล่อนท้อง  หล่อนจะได้ปลดหนี้ปลดสิน  แถมขึ้นชื่อว่าเป็นยายของเหลนฉัน  โอกาสกอบโกยผลประโยชน์มีเยอะแยะหลายทาง  เผลอๆ จับพลัดจับผลูตาสิงห์หลงใหลลูกหล่อน  ยกเป็นเมียออกหน้าออกตา  มีหวังสบายไปสิบชาติ”  กระแทกหูโทรศัพท์ลงบนแป้นทองเหลือง

        “เล่นกับใครไม่เล่น  มาเล่นกับคุณนายสร้อยระย้า  พ่อสิงห์ว่าแน่ๆ ยังลงให้  ต่อปากต่อคำดีนัก  ไม่ด่าไฟแลบก็บุญหัวแล้ว”

          “แม่ฉวี  แม่ฉวี”  เรียกหาคนสนิท

          “ค่ะ  คุณนาย”

          “ไปเตรียมห้องพัก  สี่คน  เอาสองห้องก็พอ”

          “ค่ะ”  ฉวีวรรณยอบตัวรับคำสั่ง  จากนั้นก็ผละไปทำงาน  ปล่อยคนแก่นั่งกระหยิ่มยิ้มย่อง

          “เสร็จย่าแน่พ่อสิงห์  แกน่ะเก่ง  แต่ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อน  คนไม่เคยมีเมีย  อดอยากปากแห้งเรื่องอย่างว่า  เจอเนื้อนมไข่เข้าขี้คร้านจะหัวปักหัวปำ  กว่าแกจะเบื่อ  มีหวังฉันฉีกผ้าอ้อมไม่ทัน”  มือเหี่ยวย่นคว้าวรรณคดีดังมาเปิดหน้าโปรด  คำกลอนสุนทรภู่  ตอนพระอภัยมณีกับศรีสุวรรณเรียนวิชา 

                   ในเพลงปี่ว่าสามพี่พราหมณ์เอ๋ย  ยังไม่เคยชมชิดพิสมัย
                ถึงร้อยรสบุปผาสุมาลัย            จะชื่นใจเหมือนสตรีไม่มีเลย